18 เมษายน 2549

วันที่ 18 - เข้าเมือง(หลวง)ซะที

Today's Programme

Morning To craft bamboos
AfternoonNational Palace Museum / Martyrs' Shrine
EveningXimenting market place
HotelArmed Forces Hero House, Taipei

วันนี้ตื่นมาที่ฟาร์ม หม่ำอาหารเช้าแล้วก็ไปนั่งทำงานฝีมือจากไม้ไผ่ เหอๆมันต้องใช้ฝีมือจริงๆนะ แบบว่าอันแรกทำพัดลมอย่างง่ายๆ ก็แบบว่าเค้าทำให้ดูแล้วมันดูดี๊ๆ แต่พอทำเองออกมาแล้วไม่เวิร์ค เหอๆ อันที่สองทำขลุ่ย ก็ไม่เวิร์คเท่าไหร่ ขนาดเค้าช่วยนะนี่ แล้วแบบทำสองอันนี้ไม่ได้เรื่องก็หมดอารมณ์แร้วหง่ะ วิ่งไปทำน้องหมาจากผ้าขนหนูดีก่า อันนี้เวิร์คอ่ะ น่ารักอ่ะ เติมหางให้ด้วย ครีเอ๊ท ครีเอท แต่ซวยๆๆ เอามาตั้งถ่ายรูปแล้วลืมหยิบกลับมา แงๆๆๆๆ

ที่นี่กิจกรรมเยอะมากๆ นอกจากทำไม้ไผ่นี่แล้วก็มีเสื้อกับกระเป๋าให้เพ๊นท์อีก เค้าให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง คิดว่าเสื้อเอามาคงไม่ใส่ เอากระเป๋าดีผ่า (อันนี้ตัดสินใจตั้งแต่เริ่มทำไม้ไผ่) แต่พอได้กระเป๋ามาก็รู้สึกเสียดาย ไม่อยากเพ๊นท์ กลัวกระเป๋าพังง่ะ (กำลังเซ็งๆ ขี้เกียจๆด้วย) เดินถ่ายรูปๆ แล้วก็ถึงเวลาขึ้นรถ

เดินทางสักพักเราก็ถึงไทเปแร้ว เย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สถานที่แรกที่เราไปก็คือ กู้กง หรือชื่อเต็มๆว่า National Palace Museum ที่นี่เค้ากำลังปรับปรุงอยู่ เราเลยเข้าไปด้านหน้าไปถ่ายรูปใกล้ไม่ได้หง่ะ แต่เราเข้าพิพิทธภัณฑ์ที่อยู่ข้างในได้ด้วยการเข้าจากด้านข้าง ที่นี่เค้าห้ามถ่ายรูปง่ะ เสียใจด้วย

เวลาเข้ามาดูพิพิทธภัณฑ์ที่นี่เค้าบอกว่าที่นี่มีของเยอะมากๆ (เจียงไคเช็กขนมาเยอะ)เยอะขนาดที่ว่าเอาของที่จัดแสดงที่นี่ทั้งหมดมาต่อแถวเรียงกันล้อมเกาะไต้หวันได้ทั้งเกาะเชียวแหละ (โม้ป่าวไม่รู้) โดยเฉพาะรูปวาด ที่นี่มีรูปวาดเยอะมากๆ ขนาดเค้าสับเปลี่ยนภาพทุกๆ3เดือน(เพื่อรักษาสภาพของภาพวาดให้ไม่เสื่อมสภาพ)เปลี่ยนเป็นปียังไม่ซ้ำอ่ะ แล้วถ้าเรามาที่นี่ เราต้องมาดูของมีค่า 3 อย่างอันได้แก่
  1. ผักกาดที่ทำจากหยก อันนี้เค้าเรียกว่า ชิงชิงไป๋ไป๋ (ถ้าจำไม่ผิดนะ555) ผักกาดนี้เป็นของที่ฮ่องเต้ให้องค์หญิงน้องสาวติดตัวไป หลังจากที่ต้องแต่งงานไปต่างเมือง เพราะเป็นหยกที่แสดงถึงความสะอาดบริสุทธ์(เหมือนตัวองค์หญิง)
  2. หินรูปหมูสามชั้น อันนี้สำคัญยังไงไม่รู้อ่ะลืม
  3. ภาพ City of Cathay เป็นภาพวาดที่ยาวมากๆๆ (ขนาดจริง 35.6 x 1152.8 ซม.) ที่แสดงถึงสภาพวัฒนธรรมจีนตามฝั่งแม่น้ำในช่วงสมัยราชวงศ์ชิงวาดโดยจิตรกร 5 คนคือ Chen Mei, Sun Hu, Chin Kun, Tai Hung,และ Chen Chih-tao ตอนนี้เค้าไม่ได้จัดแสดงแล้ว อดดูของจริงเรย แต่ไม่เป็นไรซื้อโปสการ์ดรูปวาดชุดนี้มาแล้วทั้งเซ็ท เวลาจะชื่นชมต้องเอาโปสการ์ด 24 อันมาต่อกันยาวเหยียดค่ะ

เรารีบวิ่งกลับขึ้นรถเพราะโปรแกรมต่อไป เราจะไปที่ Martyrs' Shrine เพื่อที่จะไปดูพิธีเปลี่ยนทหารยามตอนห้าโมงครึ่ง(เย็น)

ที่ Martys' Shire นี่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมจากราชวงศ์หมิง เพื่อเป็นที่ระลึกถึงวีรบุรุษทั้ง 330,000 คนที่เสียสละชีวิตไปตอนสงครามภายในของจีน แล้วก็คนที่เสียชีวิตตอนมีสงครามกับญี่ปุ่น ก่อนที่จะก่อตั้งสาธารณะรัฐไต้หวัน ตอนไปถึงเราจะเห็นทหารยามยืนนิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวเหมือนทหารเฝ้าวังทั่วไป แล้วก็มีทหารไม่กี่คนเดินหน้านิ่งๆมาเปลี่ยนยาม พอทหารเดินเปลี่ยนยามเสร็จเค้าก็รีบๆๆๆ ไล่คนออกเพราะเค้าจะปิดประตูแล้ว

จากนั้นเราไปกินข้าวที่ร้านอาหารแถวๆสถานีรถไฟฟ้าYuanShan ที่เค้าพาเรามากินที่นี่เพราะที่นี่เป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในไทเป ที่จะมีการกินแบบโต๊ะจีนแล้วจุคนได้เยอะๆ แต่ที่นี่ทั้งสกปรก ช้า และไม่อร่อย (บอกฝูเต่าหยวนไปแล้วนะ หวังว่าคนที่มาปีต่อๆไปคงไม่เจอ)กินไม่อิ่มอ่ะ เพราะกินไม่ลง ไม่ใช่ของมันน้อย

จากนั้นเราไปที่ๆเราจะพักคืนนี้ ตอนแรกนึกว่าอยู่ในค่ายทหาร แต่ไม่ใช่เฟร้ย มานเป็นโรงแรมดีๆนี่เอง เพียงแต่ห้องที่เราอยู่เป็นเหมือนหออ่ะ ห้องนึงนอน 5-7 คน มีห้องน้ำในตัว 2 ห้อง (ในห้องอาจจะเน่าไปนิดแต่ก็โอเคแหระ ข้างนอกห้องมานดูดีก็พอแล้ว) แถมที่พักอยู่ใกล้กับ Presidential Palace แบบว่ามองหน้าโรงแรมเนี่ยเห็นอยู่ใกล้ๆ เดินไปได้เรย แถมเดินไปอีกทางแค่พ้นมุมตึกก็ถึงตลาดซีเหมิน ตลาดกลางคืนยอดฮิตอีกด้วย อิอิ


เข้าห้องเสร็จแล้วเราต้องรอสักพักใหญ่เพราะเราต้องเรากระเป๋าใหญ่ที่เราแบกมาจากเมืองไทยแล้วทิ้งไว้ที่ไถจงเดินทางมาถึง เค้ามีรถบรรทุกขนกระเป๋ามาห้ายพวกเรา ก็ดีนะสบายเรา รับกระเป๋าเสร็จแล้วเราซ้อมการแสดงอีกสักครู่ แล้วจึงไปเดินแรดที่ ตลาดซีเหมิน โอ้วได้เจอแสงสีซะที สยามสแควร์บ้านเราชัดๆ อยู่บ้านนอกมานาน มีความสุขจริงๆ เดินกันอย่างอิสระเสรี ไปหาของกินแล้วก็เดินดูของ เดินไปเดินมาเจอคนขายร่มหล่อมั่กๆ ถูกใจป้าที่สุด อิอิ หล่อที่สุดตั้งแต่อยู่ไต้หวันมาเกือบ 3 อาทิตย์ ตอนแรกก็ถามราคาขำๆ แต่คนขายดันหล่อ แถมต่อราคามากๆแร้วยังให้อีก ข้าพเจ้าเรยใจละลายควักกระเป๋าตังค์จ่ายเค้าซื้อร่มมาหนึ่งอัน อิอิ