01 เมษายน 2549

วันที่ 1 - มาถึงไต้หวันเป็นวันแรก

Today's Programme

MorningPicking up from airport
Afternoon
EveningTo organize into group
HotelTaoyuan Training Center, TaoYuan

วันนี้เราต้องนั่งเครื่องไฟลท์เช้าของ China Airlines ไปไต้หวัน เลยต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 โอ้วจอร์จ มันแย่มาก ตอนกลางคืนกว่าจะกลับจากที่ทำงานก็ดึกแร้ว แล้วกว่าจะจัดกระเป๋าเสร็จก็แทบตาย แถมน้ำหนักกระเป๋าเกิน เค้าให้เอาไปได้แค่ 20 กิโล แต่ทำไปทำมามันกลายเป็น 23 กิโลกรัม เหอๆ มาถึงสนามบิน เกือบหกโมงเช้า ไปรับพาสปอร์ต, ตั๋ว, และก็เนคไทจากพี่อาร์มซึ่งเป็นตุ้ยจ่างของตุ้ย2 ที่เราอยู่ (ตุ้ย หมายความว่า "กลุ่ม" ส่วน ตุ้ยจ่าง คือ "หัวหน้ากลุ่ม") แล้วก็ไป check-in ไปขำๆ เรื่องกระเป๋าน้ำหนักเกินกะพนักงานเค้าตอนเช็คอิน เค้าก็ปล่อยๆไปแหระฟระ

ระหว่างที่รอคนที่เพิ่งมาถึงเข้าเช็คอิน หิวจนทนไม่ไหว ชวนน้องหงไปเซ๊เว่นไปหม่ำซาลาเปารองท้องไปก่อน กำลังหม่ำกันเพลินๆ พี่อ้อนโทรตามว่าเค้าให้ถ่ายรูปหมู่ได้แร้ว วิ่งกันแทบตายกลัวไปถ่ายไม่ทัน เหอๆ แต่ในที่สุดก็ถ่ายทัน อิอิ อยู่ข้างหน้าอีกต่างหาก

ได้เวลาขึ้นเครื่อง ไม่ได้คาดหวังเรยว่าเครื่องเค้าจะดี ปรากฏว่าขึ้นไปแร้วมันมี PTV โอ้ววววววว ดีมั่กๆ แถมทุกรายการเป็น on demand ดีกว่า PTV ของ Cathay Pacific อีก โฮะๆๆๆๆๆ อยากดูไรก็เลือกดูเลือกหยุดตามสบาย เสียอย่างเดียวหนังสือบนเครื่องมันเก่าและเยินมากๆ เพราะไฟลท์นี้เป็นไฟลท์ต่อเนื่องมาจากเนเธอร์แลนด์ แต่ก็ดีใจฟร่ะ เพราะเค้าออกจากที่นู่นเป็น 31 มีนาคม เวลาท้องถิ่น สบายเรย ยึดหนังสือฉบับเดือนมีนามาเรย รอสักพัก(ใหญ่โคตร) แอร์ฯถึงได้เอาอาหารมาเสริพ นังหลุยส์ที่นั่งอยู่ข้างๆ (อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ เค้าสุ่มจัดมาให้ได้นั่งข้างๆมัน) ดันไปเลือกเอาสเต็กปลาเลี่ยนๆมากิน สมน้ำหน้า เราเลือกเอาข้าวกับหมูอะไรสักอย่าง มีความสุขที่สุด หลังจากหิวแทบตาย กินเสร็จก็เลือกดูโน่น ฟังนี่จาก PTV เค้าเป็นแบบ touch-screen ด้วยฟร่ะ ดีๆ ชอบๆ แต่เล่นไปเล่นมันมันเจ๊งบ๊ง มี error messages ขึ้นบนหน้าจอ (ปรากฏว่ามันเป็นลีนุกซ์) ต้องรอมันรีสตาร์ทไหม่ เหอๆ

มาถึงสนามบินเจียงไคเช็ก มันอารมณ์แบบว่าอะไรเนี่ย เหมือนไม่ได้ไปไหนเรย 555 สนามบินไต้หวันโคตรเก่า เหมือนสนามบินดอนเมืองอย่างแรง ด้านในไม่ค่อยมีเอกสารอะไรให้คว้า รีบๆต่อคิว ตม.เข้าเมืองออกมา ยังไม่ทันคว้ากระเป๋า คุณตุ้ยจ่างเค้าก็ยึดพาสปอร์ตเราไปแร้น เหอๆ ระหว่างรอรับกระเป๋า แอบเห็นมีแรงงานด้วยอ่ะ คนไต้หวันเค้าเข้ามารับแรงงานข้างในเรยวุ้ย ไม่ต้องออกไปข้างนอกให้เสียเวลา มารับตัวพร้อมกระเป๋าเรย รอๆให้ของครบตั้งนาน หันไปเห็นอาเฮียคนนึง หน้าตาเหมือนการ์ตูนแต่มีไฝเหมือนอาแป๊ะ ใส่เสื้อเขียวๆ เหมือนเสื้อวินมายืนอยู่ข้างหลัง สงสัยว่าเค้ามารอรับแรงงานไทยอีก แต่ปรากฏว่าเค้าคือ "เสี่ยวเจ่า" หัวหน้าของฝูเต่าหยวน (ฝูเต่าหยวนแปลเป็นไทยคือ "พี่เลี้ยง") ใหญ่ที่สุด ทุกๆคนเรียกเค้าว่า "ต้าเกอ" (ต้าแปลว่าใหญ่ เกอแปลว่าพี่--แปลแล้วก็เหมือนกับเราเรียกใครว่า เฮีย น่านแหละ) เค้ามารอรับเราออกไป พอออกไปยังไม่ทันพ้นประตูเลย ฝูเต่าหยวนคนอื่นๆสวมเสื้อวินสีเขียว เอาป้ายสีส้มแปร๋นมาแขวนแล้วร้องเพลงต้อนรับ เหอๆ ร้องดันลั่น อายโคตร เดินๆมาพอพ้นประตูแล้วเค้าให้หยุดรวมกัน เผอิญสายตาอันแหลมคมเหลือบไปเห็น Tourist Information เลยทิ้งของวิ่งไปขอเค้าเรยตรู เสียดายๆไม่มีเป็นเล่มๆเหมือนของเกาหลี แต่ขอได้มาหลายใบมากเหมือนกาน สุขใจที่สุด เราขอเสร็จแร้วคนอื่นเพิ่งวิ่งมาขอบ้าง เผอิญเค้าเรียกถ่ายรูปพอดี พวกน้านเลยขอได้ไม่เยอะ 555 หลังจากที่ถ่ายรูปหมู่แล้วเราก็รีบเดินขึ้นรถบัสที่จอดรอ ตุ้ยละคัน แต่ละคันจะมีฝูเต่าเหยวน 2 คน (ยกเว้นคันของตุ้ย 1 จะมีต้าเกอนั่งไปด้วย) ฝูเต่าเหยวนคันของเรา คือ เมี่ยนเปา กับ เจสสิก้า (จำชื่อจีนเค้าไม่ได้หง่ะ) ระหว่างทางบนรถเค้าก็แนะนำตัวเอง แนะนำนู่น แนะนำนี่ ประกาศรูมเมทและเบอร์ห้อง จนถึงที่พักของเรา (ตรูหลับไม่ทัน เหอๆ)

ที่ๆเราจะมาพักก็คือ Taoyuan Training Center ซึ่งเป็นเหมือนโรงเรียนสารพัดช่างบ้านเรา แต่อยู่บนเขา บ้านนอก อากาศดี แต่บ้านนอกเรย ไม่มีไรแถวน้านเรย นอกจากโรงงานไรไม่รุ้ กะเมืองเล็กๆ ระหว่างทางขึ้นเขา

เข้าไปเจอห้อง ตอนน้านมานอารมณ์แบบว่า OH My God! ฝุ่นเยอะโคตรๆ พื้นดำเน่า มีเตียง 2 ชั้นอยู่ 2 เตียง ผ้าห่มฝุ่นกระจาย แล้วในตู้เสื้อผ้า มีเสื้อใครที่ไหนไม่รู้แขวนอยู่ เหอๆน่ากัวๆ เราต้องถูพื้นรอบนึงก่อนถึงจะพออยู่ได้ (แต่ก็ไม่กล้าเดินเท้าเปล่าในห้อง) ห้องน้ำรวมใช้ด้วยกันทั้งชั้น โถส้วมมีทั้งแบบยองๆ และแบบนั่ง ไม่สะอาดอ่ะ แต่ก็ขำๆ อยู่ไป แต่เค้าก็ดีนะ มีกาละมังใบเล็กให้คนละใบ บนกาละมังมีแพ็คอุปกรณ์อาบน้ำสระผม ทำธุระส่วนตัว แร้วก็ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กให้คนละผืน เราเก็บของเสร็จแล้วเค้าก็พาเราชมรอบศูนย์ แล้วก็แนะนำสถานที่ ระหว่างทางเค้าก็ชี้ให้เราดู ดอกตู้เจียน เป็นดอกไม้ที่มีเกลื่อนกลาดมากมาย แร้วเค้าบอกว่าเมืองไทยไม่มีอ่ะ

ดอกตู้เจียนเป็นดอกไม้ที่มีชื่อมาจากนก เรื่องตำนานเค้าเล่าว่ามีสามีภรรยาคู่นึงยากจนมาก แต่ก็เลี้ยงนกตู้เจียนไว้ พอสามีภรรยาคู่นี้ตายไป นกมันก็เสียใจมาก ร้องไห้ออกมาเป็นเลือด หยดลงพื้นกลายเป็นต้นดอกตู้เจียน

พอเค้าพาเราชมซะรอบ (เมื่อยสาด) เค้าก็ปล่อยเราพัก แล้วให้ไปกินข้าวที่แคนทีนตอนหกโมงเย็น โหให้ตาย ตึกที่พักอยู่ตรงทางเข้า ประมาณว่าปลายเขา แร้วเวลาเดินไปกินข้าวต้องคลานขึ้นไปด้านบนเนิน ไกลพอสมควร จากที่ไม่หิว เดินไปถึงก็หิวพอดี กับข้าวคล้ายๆของไทย คงเพราะเค้าคงพยายามทำให้ถูกปากเรา มื้อนี้อย่างหิวเพราะมื้อหลังสุดที่กินคือบนเครื่องตอน 11 โมง กินไรก็อร่อย มีพี่พ่อครัวคนนึงพูดภาษาไทยได้ด้วยอ่ะนี่

กินข้าวเสร็จเค้าพาเราเข้าห้องประชุม ที่ไม่ต้องเปิดแอร์หรือพัดลมอะไรเลย แต่ก้อหนาว (และเหม็นอับเล็กๆ) เค้าแนะนำฝูเต่าหยวนและถวนจ่างของฝูเต่าหยวน ซึ่งก็คือเสี่ยวเจ่า จากฝูเต่าหยวนทั้งหมด 9 คน มีแค่ Jessica, Joyce, แล้วก็ XuanXuan(ฉ่วนฉวน) ที่หน้าตาดี คนอื่นไม่สวยฟร่ะ ส่วนผู้ชายไม่ต้องพูดถึง หนูล่ะเศร้า

คืนนี้เรากลับห้องตอน 8.30 น. แล้วก็ทำนู่นทำนี่รอ Bed Check ตอน 10.00 น.