06 เมษายน 2549

วันที่ 6 - รำไทเก็ก, ปั้นเสี่ยวติงตัง

Today's Programme

MorningTo experience Taiwan's martial art - Tai Chi
AfternoonTo create folklore craft - Kite
EveningMandarin Singing
HotelCrown Hotel, TaiChung

เช้าวันนี้เค้าให้เรามาเรียนเต้นไทเก็ก (ภาษาจีน/อังกฤษเค้าเรียกว่า Tai Chi) เหล่าซือที่มาสอนเป็นชาย 1 หญิง 1 สอนเราทั้งหมด 4 ท่า เป็นท่าเบสิคของเค้า ไม่รู้เค้านับไงแต่รู้สึกเราเรียนเกินรึป่าวๆยังไงไม่รู้ เหอๆ เรียนทั้งช่วงเช้าเลย เรียนเสร็จ ก็มีผู้หญิงอีกสองคนออกมาร่วมกะเหล่าซือที่เป็นผู้หญิง มารำไทเก็กประกอบเพลงให้เราดูกัน


ตอนบ่ายเราจะมาเรียนทำ เนียเมี่ยนเตอ (ตุ๊กตาปั้นแบบจีนๆ) โดยตัวตุ๊กตาพวกนี้ปั้นมาจาก เพี่ยนเฝิ่น (ดินน้ำมันสีๆ กลิ่นเหมือนบัวลอย เอาไปต้มกินกะกะทิคงได้นะ 555) ตุ๊กตาที่เค้ามาโชว์คือตุ๊กตาแบบว่าจีนๆมั่กๆ แต่ที่เค้าให้เราปั้นคือปั้น "เสี่ยวติงตัง" ตอนแรกก็งง อะไรวะเสี่ยวติงตัง เหอๆ เพิ่งรู้ว่ามันเป็นชื่อเล่นภาษาจีนของโดเรม่อน

เสร็จจากการปั้นโดเรม่อน เราไประบายสีว่าว เพราะตามโปรแกรมเรามีวันนึงที่ต้องไปเล่นว่าวด้วย เค้าให้เลือกเพ๊นตามสบาย ทำไปเค้าก็อธิบายไปว่าว่าวนี่มีกำเนิดมาจากญี่ปุ่น (แร้วให้กรุทำทำไมเน่ย กรุไม่ได้มาญี่ปุ่นนะ) ระบายนานมั่กๆ เพราะตัวว่าวทำจากผ้าใบ แร้วต่อมศิลปินตรูก็มีปัญหา เพ๊นไปมั่วๆ ขำๆแหระวะ ตอนแรกใส่สีฟ้าไปก่อน แต่แบบอุบาดอ่ะ เลยเติมหญ้าไปหน่อย ทำไปทำมานึกถึง Full House เลยใส่ต้นไม้ไปด้วยก่อนเรย ตอนแรกก็สวยดีอ่ะ แต่พอวาดเก้าอี้แบบอนาถๆลงไป เรยสุดอุบาดเรย


ตอนเย็นเรามารวมกันที่ เมี่ยวเฉียงก๋วงฉ่าง (ลานหน้าศาลเจ้าระหว่างตึกโรงแรม) เพื่อเรียนร้องเพลง Shang San (ขึ้นเขา ลงเขา อะไรก็ไม่รู้อ่ะ รู้แต่เป็นเพลงพื้นเมือง) แล้วก็เพลง Peng You (อันนี้พอฮัมได้ เค้าเรยให้ร้องแค่รอบเดียวนะ ถ้าจำไม่ผิด) แล้วสุดท้ายก็ Qi Li Xiang ของ Jay Chou หลังจากที่เค้าเล่นมุขว่าเจย์โจวจะมาตั้งนาน

กลางคืน คืนนี้เรามีเลี้ยงส่ง Jessica เพราะเค้าต้องไปสอบแล้ว เราลาเค้าด้วยการเต้นเพลง เผิงเหยี่ยว ซึ่งจะมีแกนนำ พวกที่เต้นพอได้ แร้วก็พี่อาร์มที่เต้นได้แรว เวลาเต้นล้อมวงกันแล้วมันอารมณ์ซึ้งๆไงไม่รู้เหอๆ แล้วก่อนไปเค้าก็เฉลยว่า Jessica ฟังภาษาไทยออก (แบบว่าพูดออกมาแร้วเหมือนคนไทยแท้ๆ เรยด้วย) เพราะเค้าเคยอยู่เมืองไทยตั้งแต่ 3 ขวบ อยู่มา 15 ปี ถึงได้กลับมาไต้หวัน แถมอยู่โรงเรียนอนุบาล กะตอนประถมโรงเรียนที่เดียวกะตรูด้วย 5555 ส่วนผู้หญิงไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะหลายคนจับได้ตั้งแต่อยู่เถาหยวนแล้ว ส่วนพี่อาร์ม ตุ้ยจ่างเราจับได้ตอนวันที่2 ที่เราอยู่บนรถแล้วพี่อาร์มบอกพวกผู้ชายว่า "ตีแมว ต้องค่อยๆ ตี" ประมาณว่าถือโอกาสค่อยๆหยอดเจสสิก้าไป แล้วพี่อาร์มเห็นว่าเจสสิก้าขำแล้วพยายามเก็บอาการ เลยรู้ว่าต้องฟังได้ เพราะเมี่ยนเปาหน้าเฉยมั่กๆ อาการมันต่างกัน